Monday, March 4, 2013
ใบลาออกจากคนกรุงเทพ ฉบับที่ 2
จริงๆแล้วไม่ได้อคติ กับความเป็นกรุงเทพของตัวเองหรอกครับ เพราะอย่างที่บอกไป "คนกรุงเทพ" ตั้งแต่เกิดอย่างผม ชื่นชอบอะไรหลายอย่างในความเป็น "กรุงเทพ" แต่ ผมไม่ได้ชื่นชอบความเป็น "คนกรุงเทพ" ต่างหาก
ทันทีที่เขียน ฉบับที่ 1 ออกไปพอดีเป็นช่วง เพิ่งเสร็จเลือกตั้งกรุงเทพ เลยมีคน พาลคิดไปว่าผมคงเขียนเพราะคนที่เชียร์ไม่ได้รับเลือกตั้ง อืม..จริงอยากจะปฎิเสธนะครับ แต่มาคิดดูแล้วนั่นก็เป็นส่วนนึงครับ ของความเป็น"คนกรุงเทพ"ที่ผมอยากขยายความ แต่ไม่เกี่ยวกับการเมืองนะครับ เพราะพูดไป"คนกรุงเทพ" ที่ชอบก็เชียร์ ที่ไม่ชอบก็คงไม่อ่านซะปล่าวๆ งั้นขอ อณุญาตข้ามการเมืองส่วนนี้ไปนะครับ
คนกรุงเทพมีชีวิตที่ขาดแคลนการแบ่งปัน หรือมีขอบเขตของการแบ่งปัน ที่ซับซ้อน ไม่เรียบง่าย เหมือนคนต่างจังหวัดครับ เราพร้อมที่จะบริจาค หรือช่วยเหลือผู้ประสบภัยกับช่อง3 หรือขับรถไปบริจาคโลหิต เสื้อผ้าและสิ่งของ แต่เราไม่สามารถหยิบยื่นความรุ้สึกดีๆให้คนข้างบ้านได้... เราพร้อมทีจะบริจาคและแบ่งปัน ในขณะเดียวกันก็ต้องคอยระแวงกลุ่มมิจฉาชีพ หลอกลวง ตั้งแต่รูปแบบ ขอทาน ยันการหลอกลวงผ่านเทคโนโลยี เราอยากช่วยเหลือเด็กพิการ และด้อยโอกาสที่เห็นตามสะพานลอย แต่ก็ยังต้องคอยกังวลว่าจะเป็นมิจฉาชีพ เรากด like และ share แต่ไม่เคยลุกออกไปบริจาค ทั้งๆที่ เราสามารถบริจาคได้ทาง เซเว่น ตลอด24 ชั่วโมง แต่ยังมีคนมาบ่นว่า รถติดถ้าจะไปบริจาค!! เรามีสถิติโซเชียวเนทเวิค ผู้ใช้เพิ่มมากที่สุดในอาเซียน แต่เรากลับยากที่จะคุยกับคนใก้ลตัว และมีอัตราการอ่านหนังสือน้อยมากๆ ( อ้างอิง ที่นี่ )และ ที่นี่
บางคนจะเริ่มบอกผมว่าเอ็ะ! เดี๋ยวก่อน คนทั้งกรุงเทพไม่ได้เป็นแบบนั้นซะหน่อย ใช่ครับ! แต่นั่นคือสิ่งที่พบเห็นจนชินตา จากบางคนที่เรียกตัวเองว่า "คนกรุงเทพ" จนทำให้ผมเริ่มถามตัวเองกลับมาว่าเราเป็นกลุ่มนั้นเหรอ? ผมรัก "กรุงเทพ"ครับ! สรุป แต่ไม่ชอบกับการถูกนับเป็น "คนกรุงเทพ"
คนต่างจังหวัดปลูกบ้านไม่จำเป็นต้องมีกำแพง บางคนใช้แค่คันนา หรือต้นไม้บอกแนวบ้าน และไม่ต้องพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ นะครับ คนกรุงเทพ น่ะ เทียบไม่ติดแน่ จริงไหมครับ
ไม่ใช่กำแพงของบ้านนะครับ ที่ "คนกรุงเทพ" ต้องมี แต่กำแพง ความคิด และ กำแพงจิตใจ ก็มีมาก เสียจน ยากจะทลาย ไม่ว่าจะเป็น ทัศนคติ ของการมองผู้อื่น และทัศนคติในการมองตนเอง แต่ "คนกรุงเทพ" กับอ่อนแอ ทางด้านอารมณ์ อย่างเหลือเชื่อ เราโกรธง่าย หงุดหงิดง่าย เพราะสภาพแวดล้อมของความเป็นกรุงเทพผลักดันเราไปในทิศทางนั้น
เมื่อพูดถึงความอ่อนแอทางด้านจิตใจ คุณเชื่อไหมครับว่ากรุงเทพจังหวัดเล็กๆ แต่มีวัดอยู่ถึง 440 วัด เฉพาะพุทธศาสนา ไม่รวมศาสนาอื่นอีก แต่อัตราการเข้าวัดของ "คนกรุงเทพ" หรือความผูกพันกับ วัดนั้นเทียบไม่ได้เลยกับคนต่างจังหวัด เพราะเราพอใจที่จะไปห้างเพื่อผ่อนคลาย ทำใจให้สบายมากกว่า เรามีวัดเยอะ แต่ เราก็มีจำนวน ผับ บาร์ ไนท์คลับ เลาจ์ คาราโอเกะ มากๆๆๆ จนตาลาย เราอยู่ใก้ล พุทธมณฑล แค่ขับรถไป นครปฐม แต่เรามี พัฒณพงษ์ อยู่ใจกลางเมือง
เรามีรถไฟฟ้า แต่ไม่มีน้ำใจพอจะรับคนข้างทางให้ติดรถไปด้วย เหมือนต่างจังหวัด เพราะ ไม่ไว้เนื้อเชื่อใจกัน เรา
"คนกรุงเทพ" ยิ้มยากขึ้นทุกวัน เราพร้อมที่จะทุ่มเถียง เพื่อให้ชนะ ถ้าเราเจอคนที่มีความคิดแตกต่างจากเรา ทั้งๆที่แต่ก่อนเรา พร้อมจะยิ้มและพูดคุยด้วยดีๆ แต่คนที่ทำสิ่งต่างๆเหล่านี้ กลับถูกมอง ว่า โง่บ้าง ,ไม่ทันคนบ้าง และทำให้คนๆนั้นเป็นดั่งพวกเค้า ....." คนกรุงเทพ"
ถ้ามีเนื้อหาเพิ่มเติม ฉบับที่3 จะมาเขียนต่อครับดึกแล้วนอนดีกว่า
เครดิต ภาพจาก : http://www.everystockphoto.com
ถ้าเนื้อหานี้ต้องการ แนะนำ ติชม เพิ่มเติม แก้ไข อย่างไร คอมเมนท์ได้เลยครับ ที่นี่
ดู บล็อค อื่นๆ ของ ผม ได้ ที่นี่
สนับสนุน ค่ากาแฟ ผ่อนแฟนในอนาคต ของผู้เขียน คลิก แบนเนอร์ด้านล่างเป็นกำลังใจนะครับ ขอบคุณครับ ^/l\^
-->
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment